5 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ที่คุณห้ามพลาดเด็ดขาด อัพเดท 2018

ประเทศเกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เพราะว่าใช้เวลาเดินทางไม่นานแค่เพียง 5-6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว และก็ยังเป็นประเทศไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกด้วย ถ้าหากจะพูดถึงสถานที่เที่ยวในประเทศเกาหลีนั้นในความเป็นจริงแล้วมีมากมายก่ายกองหลายที่ ด้วยเหตุนี้คนใดกันแน่กำลังแพลนท่องเที่ยวหรือกำลังตัดสินใจว่าจะท่องเที่ยวประเทศไหนดี ทดลองตามมามอง 15 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในเกาหลี แล้วต้องอยากท่องเที่ยวแน่นอน

1. พระราชวังเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace
ราชสำนักเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “พระราชสำนักคยองบกกุง” เป็นสัญญลักษณ์และก็แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชสำนักที่มีขนาดใหญ่รวมทั้งเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ในยุคพระเจ้าแทโจ วงศ์สกุลโชชอน แรกเริ่มนั้นข้างในพระราชวังมีตึกและตำหนักต่างๆมากกว่า 200 หลัง แต่ว่าเมื่อมีการรุกรานของประเทศญี่ปุ่น ตึกโดยมากก็ได้ถูกทำลายลงหลงเหลืออยู่แค่เพียง 10 หลังเพียงแค่นั้น

2. เกาะนามิ สุดโรแมนติเตียนค Namiseom Island
เกาะนามิมีต้นเหตุที่เกิดจากผลของการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ราวๆ 270 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนเกาะนี้มีชื่อในหมู่คนประเทศเกาหลีมานานเนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงามยังมีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามธรรมชาติตัวอย่างเช่น กระรอก กระแต นก หงส์ ห่าน รวมทั้งนกกระจอกเทศด้วย และก็ตรงนี้จะนำสายไฟลงใต้ดินทั้งผอง เพียงแค่รักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้ โดยช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดจะเป็นตอนฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากว่าต้นไม้มากไม่น้อยเลยทีเดียวตรงนี้จะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเดินใต้ต้นแปะก๊วยที่จะแปลงใบเป็นสีเหลืองสดงดงามมากมาย แต่ว่าตรงนี้คนจะมากตลอดทุกฤดู

3. ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station
ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station เป็นเลิศในจุดชมซากุระที่งามลำดับแรกๆของเกาหลีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถแลเห็นรถไฟที่วิ่งมาหยุดที่สถานีพร้อมทั้งทิวทัศน์อุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทางในตอนราวต้นเดือนเดือนเมษายน สถานีรถไฟคยองฮวาแห่งนี้เป็นสถานีเล็กๆที่อยู่ที่เมืองจินแฮ (Jinhae) จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) ได้มีการยกเลิกการใช้แรงงานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่ว่าจะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในช่วงเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลดูดอกซากุระที่จัดอย่างมากใหญ่ของเมืองจินแฮ แต่รถไฟนั้นจะมิได้มาหยุดที่สถานี เพียงแค่ใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

4. อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream
อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream ยอดเยี่ยมในจุดที่โด่งดังเยอะที่สุดสำหรับเพื่อการชมดอกซากะของเมืองจินแฮ เริ่มเป็นที่รู้จักกันภายหลังจากซีรีย์เรื่อง Romance ออกอากาศเมื่อปี 2002 ซึ่งใช้ลำคลองแห่งนี้เป็นฉากสำหรับในการถ่ายทำ เลื่องลือจนถึงมีชื่อเรียกสะพานที่ใช้ข้ามลำคลองตามชื่อซีรีย์มันก็คือ Ramance Bridge

ในทุกๆเมษายนของทุกปีซึ่งเป็นตอนที่มีเทศกาลดูดอกซากุระ ที่ลำคลองที่นี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาดูความสวยงามของดอกซากุระ สามารถเดินเที่ยวได้อีกทั้งข้างบนสะพานรวมทั้งข้างล่างซึ่งจะมีทางเท้ายาวตลอดแนวเรียบไปกับคูน้ำ แล้วก็ยังมีดอกเรปซีดเซียวซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กออกดอกสีเหลืองบานพร้อมกันซากุระอีกด้วย แต่ละปีก็จะมีการเสริมแต่งตกแต่งบริเวณคลองในช่วงที่จัดงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำร่มที่สีสันผ่องใสมาแขวนไว้หรือจะเป็นโคมรูปหัวใจน่ารักๆรวมทั้งในช่วงช่วงกลางคืนก็จะเปิดไฟประดับงามมากมาย

5. บริเวณช้อปปิ้งเมียงมองป่า หรือ มยองดง
ย่านช้อปปิ้งเมียงป่า หรือ มยองป่าดง (Myeong-dong) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล เป็นบริเวณช้อปปิ้งที่ฮิตแล้วก็คักคักที่สุดของกรุงโซล เย้ายวนใจนักเดินทางได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน ทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวก ถือว่าเป็นศูนย์กลางของการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมอย่างยิ่งจริงๆ ภายในตลาดเมียงมองป่าเต็มไปด้วยร้านค้า แล้วก็ห้องอาหารนับไม่ถ้วน เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของนักเดินทางแล้วก็นักช้อป

ห้างสรรพสินค้า
ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด อย่างเช่น ห้างลอตเต้(Lotte) กับห้างชินเซแก(Shinsegae) ส่วนร้านอื่นๆก็ตั้งอยู่ทุกซอกมุม รวมถึงร้านค้าเคลื่อนที่ริมถนนที่ขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง สินค้าอื่นๆในราคาไม่แพง รวมทั้งของหวานแสนอร่อย โดยเจ้าของร้านจำนวนมากสามารถพูดภาษาอังกฤษ ประเทศญี่ปุ่น จีน และไทยได้

เป็นไงบ้าง 5 สถานที่เด็ดไหม สามารถติดตามชมการจัดสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีอีกเพียบเลยจริงๆประเทศนี้ท่องเที่ยวยังไงก็ไปไม่หมดกล้วยๆหวังว่าเพื่อนพ้องๆคงจะถูกใจ แล้วก็ติดตามบทความของพวกเรา ใครกันแน่ถูกใจขอความปรานีแชร์ให้สหายๆได้อ่านกันด้วยนะ แล้วเจอกันตอนใหม่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เกาหลี

5 ยอดเยี่ยมสถานที่ท่องเที่ยวในเวียดนามที่คุณจำเป็นต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ่ยถึงเวียดนามใครๆก็มักจะคิดถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่ว่ารู้ไหมมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆน่าดึงดูดอีกเพียบเลยในเวียดนามที่เดี๋ยวนี้กำลังเป็นกระแสอย่างยิ่งๆที่คุณไปเวียดนามต้องไม่พลาด เรามาอัพเดทกันวันท่องเที่ยวเวียดนามทั้งทีจำเป็นต้องสุดๆ5 สถานที่ที่แห่งไหนกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. เที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดเขา อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังราวๆ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราวๆ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา ภูเขาบานา เคยเป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยด้านบนเป็นบ้านพักและโฮเต็ลของชาวประเทศฝรั่งเศสยุคเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังการสู้รบชาวประเทศฝรั่งเศสแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่นับเป็นเวลาหลายปี จนถึงถูกกลับมาบูรณะเป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากอีกทีในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างกระเช้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับการนั่งตะกร้าจากด้านล่างขึ้นไปข้างบน ค่าครองชีพในการก่อสร้างเคเบิลคาร์ระยะแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา รวมทั้งตอนที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดดอย มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดังนี้ บานาฮิลล์ ถูกผลิตขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงจากออสเตรเลีย เครื่องมือแล้วก็เครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งหมด 94 เคบิน ตะกร้ามีอีกทั้งแบบเปิดเตียนโล่งโอเพ่นเครื่องปรับอากาศกับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ภายในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.ท่องเที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่มีนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ และก็ยังรวมทั้งสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงามรวมทั้งน่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของโลก แล้วก็วันนี้เราจะขอแนะนำสถานที่เที่ยวที่มีอีกทั้งความงาม แล้วก็ความประทับใจ

โดยสถานที่เที่ยวที่เป็นที่รู้จักของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง คือ ถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) เป็นต้นเกิดของแม่น้ำซอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากภายในถ้ำ และก็ได้รับการยอมรับจาก นักสำรวจถ้ำทั่วทั้งโลกว่า เป็นถ้ำอันดับต้นๆของโลก ด้วยเหตุว่าเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการอาทิเช่น น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำสูงที่สุด ยาวที่สุด และกว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) เป็นอีกหนึ่งจุดหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากมายแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติแล้วก็ทางธรรีวิทยา ที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (หรือโดยประมาณ 400 ล้านปี) นั่นก็เลยทำให้อุทยานที่นี้มีทำเลที่ตั้งแบบหินปูนที่ดั้งเดิมที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จัก (Bo Trach) และอำเภอมิญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) แล้วก็ติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาตอนใต้ราว 500 กิโล ภายในเขตอุทยานมีกรุ๊ปหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้เป็นที่รู้จักในความสวยของถ้ำที่มีอยู่เยอะมากๆ และยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีสายธารใต้ดินขนาดใหญ่

3.ท่องเที่ยวอ่าวฮาลอง (Ha Long Bay)
ฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง เป็นสถานที่เที่ยวสำคัญอีกที่ในประเทศเวียดนามที่ความโด่งดังมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดชม โดยตรงนี้ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากหน่วยงานยูเนสโกเนื่องจากว่ามีความสวยของธรรมชาติจำนวนมาก

ฮาลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาทดลองตั้งอยู่ทางภาคเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ภายในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางตะวันออกโดยประมาณ 170 กิโล และก็อยู่ใกล้กับประเทศจีน ฮาทดลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งยาว 120 กิโล มีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทร บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นกับอย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความงดงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาทดลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวมังกรผู้ดำตรง ตามตำนานราษฎรเวียดนามบอกกล่าวกันว่า ในอดีตกาลที่ชาวเวียดนามกำลังทำสงครามกับจีน ทวยเทพเทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งถัดมามังกรกลุ่มนี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณอ่าวฮาทดลอง ทำให้มีเพชรนิลจินดารวมทั้งหยกพุ่งกระเด็นออกมาแปลงเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะคุ้มครองผู้รุกราน แล้วก็บางตำนานพูดถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งเชื่อว่าอาศัยอยู่ที่รอบๆก้นอ่าว

4.ท่องเที่ยวเมืองซาขว้าง ท้องนาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาขว้าง เป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากที่มีเสน่ห์มากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยทำเลที่ตั้งอันสวยสดงดงามที่รุมล้อมไปด้วยยอดเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นเกือบจะตลอดปีทำให้เช้าของที่นี่มีไอหมอกปกคลุมงาม ในแต่ละปี ซาขว้าง จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้แวะเวียนมาท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาปา เป็นเมืองเล็กๆที่นักเดินทางต่างประเทศเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่ยุคที่ประเทศฝรั่งเศสยังดูแลประเทศเวียดนาม โดยชาวตะวันตกติดอกติดใจที่นี่เนื่องจากอากาศดีและก็เงียบสงบ ถัดมาซาขว้างจึงมีชื่อและก็เป็นที่นิยมจากนักเดินทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกระทั่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมหลายหมื่นคนต่อปี

5.ท่องเที่ยวหมุยแหน ภูเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักเดินทางที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเนื่องจากว่าภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายคนคุ้นเคยกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่แล้วก็อยู่ใกล้กับริมทะเล จึงมีแดดและลมที่แรงมากมายทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งเป็นเทือกเขาทรายขาวรวมทั้งภูเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยสำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ว่าเป็นที่ชื่นชอบมากยิ่งกว่าในสายตาของคนถ่ายรูป เนื่องจากว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตเป็นการเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่างซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆภูเขาทราย

รายละเอียดเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าขณะที่ยอดเยี่ยมในการมาเที่ยวเป็น ตอนเวลาเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็น เพราะตอนกลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศและก็แดดแรงมากมาย
เป็นยังไงบ้างค่ะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งยังสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ กล่าวได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้เดินทางท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมถึงค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วยค่ะ

ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักเดินทางที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เพราะภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่คนไม่ใช่น้อยเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และก็อยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเล ก็เลยมีแดดรวมทั้งลมที่แรงมากทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งหมายถึงภูเขาทรายขาวแล้วก็ภูเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ว่าเป็นที่ชื่นชอบมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถ่ายภาพ เนื่องมาจากสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่าง ซึ่งวัสดุอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นตอนที่เยี่ยมที่สุดสำหรับในการมาท่องเที่ยว คือ ช่วงเช้าหรือไม่ก็ตอนเวลาเย็นเนื่องจากว่ากลางวันถึงตอนบ่ายนั้นอากาศและแดดจัดมากมาย
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้เดินทางท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 สถานที่เที่ยวในประเทศเมียนมาร์ที่คุณจำต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

แม้เอ๋ยถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองไทย โดยมากหลายๆคนมักระลึกถึงการไปไหว้พระแค่นั้น แม้กระนั้นเรื่องจริงเมียนมาร์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์ ที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสสักหนึ่งครั้ง วันนี้พวกเรารวบรวม 5 สถานที่เที่ยวพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่ไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองพูกาม ทะเลเจดีย์และวิถีชีวิตแบบพม่าๆ
นับว่าเป็นโชคดีของชาวพูกาม ที่ศาสนาพุทธรุ่งเรืองถึงขีดสุดเช่นกันในเวลานั้น ทำให้พระผู้เป็นเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ ท่านสร้างเจดีย์แห่งแรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” จากนั้นกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และก็ผู้มีอันจะกินทั้งหลายในพูกามก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด อาจเพราะว่าความเชื่อที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่มโหฬารแค่ไหน ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากแค่นั้น

อาณาจักรพูกามเคยเจริญก้าวหน้าขนาดไหนพวกเราอาจไม่ต้องเล่า เนื่องจากว่าเกือบ 1,000 ปีให้หลังทุกสิ่งทุกอย่างได้พิสูจน์ตนเองไปเป็นระเบียบแล้ว ตัวเราต่างหากที่จะต้องมาพิสูจน์ความใหญ่โตนั้นด้วยตาของพวกเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือเพียงแค่ 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่เคยรู้ว่าอีกหน่อยจะเหลือให้มองขนาดไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
ถ้าหากโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันเลยดีกว่า! สถานที่เที่ยวในประเทศพม่า อีกแห่งที่ต้องการเชิญคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom นับว่าเป็นสวนน้ำที่แรกของประเทศพม่า ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ที่นี่คุณจะได้เจอกับสไลด์เดอร์สุดแจ๋วระดับโลก ทั้งยัง “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้ท่านไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กม./ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้ท่านแล้วก็สหายๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกด้วยกัน ผ่านท่อสีเขียวที่คดเคี้ยว ยาวกว่า 60 เมตร! นอกเหนือจากนั้นยังมีโซนสำหรับคุณหนูอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการสิ่งอำนวยความสะดวกอีกทั้งล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ห้องอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่างครบถ้วน หนีร้อนไปสนุกสนานกับสวนน้ำในปิ้งกุ้งกันเลยดีกว่า

3. เที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้เก่าแก่ ที่มีอายุกว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้จำนวนพันกว่าต้น เราสามารถเดินชมสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ และยิ่งในเวลาที่ดวงตะวันกำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศบริเวณบริเวณสะพาน จะมองเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์แวววาวกับสายน้ำ นอกจากจะได้ดูความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกแล้ว ยังได้มองเห็นวิถีชีวิตของคนเมียนมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดตรึงใจตรึงตากันเลยทีเดียว

ของร้านขายเครื่องดื่ม ขายอาหารบนเกาะ ดูดวงตะวันตกในทะเลสาบ แถมมีปลารวมทั้งกุ้งสดๆจากทะเลสาบ ให้ได้ลิ้มชิมรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วคอยชมดวงตะวันตกได้อีกด้วย แนวทางในที่สุดเป็นวิธีที่เสียตังน้อยที่สุดเป็นสามารถยืนดูทิวทัศน์บนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละอย่างแรง

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด และก็วิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ชาวบ้านดำเนินชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? เป็นราษฎรเค้าสร้างบ้านแล้วก็อาศัยกันในทะเลสาบเลยแกรเอ้ยยย ต่อไปนี้เนี่ย แน่นอนการดำรงอยู่และการเพาะปลูกหรือทำการเกษตรของเค้าต้องเกี่ยวกับทางเรือ อย่างเช่น การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การสร้างบ้านแบบเสาค้ำกึ่งกลางน้ำ รวมทั้งยานพาหนะจำเป็นอย่างเรือ ที่แน่นอนมีหยุดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลเป็นความสามารถพิเศษของชาวอินคาเนี่ยล่ะ การพายเรือด้วยเท้าด้านเดียวสำหรับเพื่อการเดินทางรวมทั้งจับสัตว์ในน้ำที่ไม่ซ้ำใครในโลก ดังมากมายเว้ย ดังจนกระทั่งที่นี่เป็นอีกจุดหมายปลายทางนึงที่นักท่องเที่ยวต้องมาดูเลยล่ะ ทราบแบบนี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต แห่งสมุทรประเทศพม่า.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากริมฝั่งจังหวัดระนองเพียงแค่ประมาณ 81.2 กิโลเมตรเพียงแค่นั้น เกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีริมหาด มีช่องว่างอยู่กึ่งกลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ แม้มองดูจากมุมสูงจะมีความเห็นว่าช่องตรงกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำสมุทรสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น ผนวกกับบริเวณรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวขจี ทำให้รูปร่างหัวใจนี้แลเห็นแจ่มแจ้ง จนได้รับการตั้งชื่อจากคนไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งฝรั่งจะรู้จักกันในนาม “Hidden Lagoon”

มองเห็นไหมล่ะว่า การไปเที่ยวประเทศพม่า ก็ไม่ได้มีแต่การไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวเพียงแค่นั้น ประเทศพม่ายังมีแหล่งธรรมชาติงามๆอีกมากมาย ถูกอกถูกใจคนชอบท่องเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ แม้ได้โอกาสลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การเที่ยวประเทศพม่ากว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

5 สถานที่เที่ยวในประเทศเมียนมาร์ที่คุณจำต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

ถ้าเกิดเอ่ยถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองไทย ส่วนมากผู้คนจำนวนมากมักนึกถึงการไปไหว้พระเท่านั้น แม้กระนั้นข้อเท็จจริงพม่า ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์ ที่มีคุณค่าแก่การไปสัมผัสสักหนึ่งครั้ง วันนี้พวกเราเก็บรวบรวม 5 สถานที่เที่ยวพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่แห่งไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองพุกาม ทะเลเจดีย์รวมทั้งวิถีชีวิตแบบพูกามๆ
ถือเป็นโชคดีของชาวพุกาม ที่พุทธรุ่งโรจน์ถึงขีดสุดเช่นเดียวกันเวลานี้ ทำให้พระผู้เป็นเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ ท่านสร้างเจดีย์แห่งแรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” ต่อจากนั้นกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และก็ผู้มีอันจะกินทั้งหลายแหล่ในพม่าก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด อาจจะเพราะว่าความเชื่อถือที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่มโหฬารเท่าใด ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากมายแค่นั้น

อาณาจักรพม่าเคยรุ่งเรืองขนาดไหนพวกเราอาจไม่ต้องชี้แจง เพราะแทบ 1,000 ปีที่ผ่านมาทั้งหมดทุกอย่างได้พิสูจน์ตัวเองไปเป็นระเบียบแล้ว ตัวเราต่างหากที่จำเป็นต้องมาพิสูจน์ความใหญ่โตนั้นด้วยตาของพวกเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือเพียงแค่ 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่ทราบว่าอีกหน่อยจะเหลือให้มองแค่ไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
ถ้าเกิดโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันเลยดีกว่า! สถานที่เที่ยวในประเทศพม่า อีกแห่งที่อยากชักชวนคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom นับว่าเป็นสวนน้ำแห่งแรกของเมียนมาร์ ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ตรงนี้คุณจะได้เจอกับสไลด์เดอร์สุดเจ๋งสุดยอด ทั้งยัง “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้คุณไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้คุณและเพื่อนพ้องๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกด้วยกัน ผ่านท่อสีเขียวที่ลดเลี้ยว ยาวกว่า 60 เมตร! ยิ่งกว่านั้นยังมีโซนสำหรับคุณหนูอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกทั้งล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ห้องอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่างครบครัน หนีร้อนไปสนุกกับสวนน้ำในย่างกุ้งกันดีกว่า

3. เที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้โบราณ ที่มีอายุกว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้จำนวนพันกว่าต้น เราสามารถเดินชมสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ แล้วก็ยิ่งในช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศรอบๆบริเวณสะพาน จะเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์เป็นประกายกับสายน้ำ นอกเหนือจากการที่จะได้ดูความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้นและก็ตกแล้ว ยังได้มองเห็นวิถีชีวิตของคนเมียนมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดตราตรึงใจกันเลยทีเดียว

ของร้านค้าขายน้ำดื่ม ขายของกินบนเกาะ ดูพระอาทิตย์ตกในทะเลสาบ แถมมีปลารวมทั้งกุ้งสดๆจากทะเลสาบ ให้ได้ชิมรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วรอชมดวงตะวันตกได้อีกด้วย แนวทางในที่สุดเป็นแนวทางที่เสียตังน้อยที่สุด คือ สามารถยืนชมทิวทัศน์บนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละแบบจ้า

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด และก็วิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ชาวบ้านดำเนินชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? เป็นประชาชนเค้าสร้างบ้านและอาศัยกันในทะเลสาบเลยแกรเอ้ยยย ต่อไปนี้เนี่ย แน่ๆการดำรงชีพและการเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมของเค้าต้องเกี่ยวกับทางเรือ อาทิเช่น การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การผลิตบ้านแบบเสาค้ำกลางน้ำ รวมทั้งยานพาหนะต้องอย่างเรือ ที่แน่ๆมีจอดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลคือพรสวรรค์ของชาวอินค้างเนี่ยล่ะ การพายเรือด้วยเท้าด้านเดียวสำหรับในการสัญจรรวมถึงจับสัตว์ในน้ำที่ไม่ซ้ำใครในโลก ดังมากโว้ย ดังจนที่นี่เป็นอีกจุดหมายปลายทางนึงที่นักท่องเที่ยวต้องมาดูเลยแหละ รู้แบบนี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต ที่สมุทรเมียนมาร์.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในสมุทรอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระนองเพียงประมาณ 81.2 กิโลแค่นั้น เกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีริมหาด มีช่องว่างอยู่กึ่งกลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ ถ้ามองจากมุมสูงจะมีความเห็นว่าช่องตรงกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำสมุทรสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น รวมกับรอบๆรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ทำให้รูปร่างหัวใจนี้แลเห็นแจ้งชัด จนได้รับการขนานนามจากชาวไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งคนต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อ “Hidden Lagoon”

มองเห็นไหมล่ะว่า การไปท่องเที่ยวเมียนมาร์ ก็ไม่ได้มีแต่ว่าการไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวแค่นั้น ประเทศพม่ายังมีแหล่งธรรมชาติงามๆอีกเยอะมาก ถูกอกถูกใจคนถูกใจท่องเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ ถ้าหากมีโอกาสลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การท่องเที่ยวเมียนมาร์กว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ท่องเที่ยวประเทศพม่าสักการ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของพม่า

ยกย่องพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุรายปีเกิดของปีมะเมีย สักการพระบรมธาตุมุเตา เยอะที่สุดของพม่า ไหว้พระธาตุอินทร์ห้อย พระธาตุประจำปีกำเนิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
ถ้าเกิดจะเอ่ยถึงการไปเที่ยวประเทศพม่าแล้ว อาจจะไม่มีผู้ใดไม่พูดถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ประจำเมืองประเทศพม่า ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพม่า ทั้งยังคนต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศพม่าต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่แก่โบราณกว่า 2,000 ปี เป็นที่ตั้งพระเกศาธาตุ 8 เส้น ของพระพุทธเจ้า และก็มีความใหญ่โตยอดเยี่ยม โดยสูงถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากแรงเลื่อมใสของชาวพม่า ด้วยกันบริจาคสินทรัพย์เงินทอง ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้ตีแผ่เป็นแผ่นเรียงต่อกันห่อตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 กิโลเลยทีเดียว ทำให้เจดีย์ที่นี้ มีสีทองเหลืองสวยงาม เปล่งแสงให้มองเห็นทั้งช่วงเวลากลางวันเวลากลางคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกแต่งแต้มไปด้วยอัญมณีอันเลอค่า ส่งแสงระยิบมองเห็นมาแต่ไกลผู้คนที่มาท่องเที่ยวพม่า นอกเหนือจากการที่จะมาชื่นชอบความงดงามของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว จำเป็นต้องไปนั่งสวดมนต์ตั้งจิตอธิษฐานแล้วก็กราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานสัมฤทธิผล หรือ ลานอธิษฐาน เพราะมั่นใจว่าจะประสบผลสำเร็จดังที่ปรารถนา ต่อด้วยการสรงน้ำพระทุกวันเกิดที่ตั้งอยู่ทั้งยังแปดด้านรอบองค์เจดีย์และก็มีพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้บูชาขอพร
2. พระบรมสารีริกธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ท่องเที่ยวพม่าดูความสวยงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวพม่ากันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีชมความสวยสดงดงามในต้นแบบมอญกันบ้างที่ พระบรมธาตุมุเตา หรือพระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุดั้งเดิมกว่า 2,000 ปีรวมทั้งยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่าอีกด้วย ด้านในเจดีย์ใส่พระเกศธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่ยุคมอญเรืองอำนาจ ทำให้ต้นแบบที่เห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกสิ่งทุกอย่าง โดยมีฉัตรแบบเรียบๆองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ด้านในเป็นก้อนอิฐกลวง โดยมีความหมายทางประวัติศาสตร์เป็น ใช้เป็นที่ทำพระราชพิธีเจาะพระกรรณของพระผู้เป็นเจ้าตะเบ็งเสียงชะเวตี้เมื่อครั้งพระองค์ขึ้นครองราชย์ใหม่ๆต่อมาพระเจ้าบุเรงนองได้สร้างฉัตรมอบเพิ่มอีกหลายชั้น กล่าวกันว่าก่อนที่จะท่านจะออกออกศึกคราวไหน จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกครั้ง และสมเด็จพระพระราชามหาราชเมื่อครั้งเคลื่อนทัพมาตีหงสาวดีก็ได้เสด็จมานมัสการ ณ ที่แห่งนี้ด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้เกิดแผ่นดินไหวหลายที และก็ครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะแล้วก็จัดแสดงซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาท่องเที่ยวพม่าได้สักการคู่กันกับองค์ปัจจุบันนี้ ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยขั้นตอนการอธิษฐาน ให้เอามือแล้วก็หน้าผากแตะต้องไปที่พระบรมธาตุองค์เดิมที่หัก รวมทั้งอธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสัมฤทธิ์ผล
3. พระบรมธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจทีโย
พระบรมสารีริกธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจคราวโย ในภาษามอญ มีความหมายว่าหินรูปหัวฤษี เป็นก้อนหินที่ศรัทธา มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองคำขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตันตั้งอยู่บนผาสูงชัน ถ้าหากมองดูด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อก้อนหินนั้นยื่นออกมานอกหน้าผาแถมผายังลาดลงต่ำ ทำให้ดูเหมือนหินวางอยู่อย่างหมิ่นเหม่เหมือนจะร่วงลงมา กลับตั้งสูงเด่นบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงแค่น้อยนิด ไม่เกรงกลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่ประการใด เหมือนกับถูกพระอินทร์มาจับห้อยเอาไว้ จึงได้เรียกกันว่า พระบรมสารีริกธาตุอินทร์แขวนนอกเหนือจากนี้ ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนหิน ได้ถูกจำลองเป็นพระเกศาแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีจอ ที่คนกำเนิดปีนี้จำต้องไปเที่ยวเมียนมาร์ เพื่อไปนมัสการสักหนึ่งครั้งหนึ่งในชีวิต เชื่อกันว่า ถ้าหากคนไหนกันแน่ได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ว่าความสำราญความเจริญรุ่งเรือง และขอสิ่งใดก็จะได้สมเช่นมุ่งหมายทุกสิ่ง

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

10 สิ่งที่ต้องทราบแล้วก็ควรทำเมื่อท่องเที่ยวในเมียนมาร์

1. จัดเวลามากกว่า 1 อาทิตย์สำหรับในการท่องเที่ยวเที่ยวดู
การเที่ยวพม่าจำเป็นที่จะต้องใช้เวลามากกว่า 1 อาทิตย์ ด้วยการเดินทางที่ยังไม่สะดวกนักรวมทั้งทางที่ยาวไกล 1 อาทิตย์ดูจะรีบร้อนเหลือเกินและยังท่องเที่ยวได้ไม่ทั่ว ถ้าหากคุณมีเวลา 2 หรือ 4 สัปดาห์ให้คิดแผนทางท่องเที่ยวบริเวณแหล่งท่องเที่ยวหลัก 4 ที่โดยการบินไปลงเมืองใหญ่สักแห่งและบินกลับจากอีกเมืองหนึ่ง
2. สัมผัสประวัติศาสตร์ พร้อมๆกับชอปรวมทั้งกินให้กระจายในปิ้งกุ้ง
ย่างกุ้ง เป็นเมืองขนาดกระชับที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีสถาปัตยกรรมจากสมัยอาณานิคมกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองเชิญให้คิดถึงสมัยก่อนที่ประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ขณะที่มหาเจดีย์ชเวดากองก็ส่องประกายสีทองงามเป็นเครื่องหมายของศาสนาพุทธอันรุ่งโรจน์ ตรงนี้ชุมชนชาวจีน เนปาล และอินเดียตั้งอยู่ใกล้เคียงชุมชนชาวพม่า ที่พักราคาเริ่มที่ 3,xxx บาท
3. หลงทางในวัดที่พม่า
ประเทศพม่า ดินแดนลึกลับเหนือระยะเวลานี้เป็นที่ตั้งของวัดกว่า 2,000 แห่งที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 ตั้งแต่วัดขนาดใหญ่ที่สง่างดงาม ไปจนถึงวัดเล็กๆที่สร้างอย่างประณีตบรรจง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะรู้สึกเสมือนกำลังเดินทางย้อนเวลา ตรงนี้ใช้การเดินทางด้วยรถม้าเป็นหลัก (ประมาณ 600 บาทต่อวัน) แม้กระนั้นการขี่จักรยาน (ราว 90 บาทต่อวัน) เป็นวิธีเดินทางที่เยี่ยมที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวแบบเต็มวันรวมทั้งประพฤติตัวกลมกลืนไปกับผู้คนนับร้อย ที่พักในประเทศพม่า ราคาเริ่มที่ 5xx บาท
4. ศึกษาและทำการค้นพบความเงียบสงบแล้วก็จารีตประเพณีเริ่มแรกที่ทะเลสาบอินเล
ทะเลสาบอินเล (ใหญ่เป็นอันดับสองของพม่า) เป็นดั่งกระจกส่องสีน้ำเงินสะท้อนภาพอันสวยงามของหมู่บ้านเล็กๆเขื่อนที่สร้างด้วยมือและก็คลองที่ใช้คนขุด ที่นี่ยังคงรักษาจารีตประเพณีโบราณ(และก็คนหาปลาที่พายเรือด้วยเท้าข้างเดียว) บรรยากาศสงบเงียบ รวมทั้งกิจการค้าแบบดั้งเดิม ทั้งยังมีตลาดผลไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และสวนองุ่นที่อยู่ไม่ไกล แม้ต้องการดูทะเลสาบแบบเงียบสงบไม่ต้องฝ่าผู้คนพวกเราขอชี้แนะให้รีบไปแต่เช้า
5. ลิ้มลองของอร่อย และก็หัวเราะร่า ขณะท่องไปในเมืองมัณฑะเลย์อันสวยสดงดงาม
มัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่มีกิจกรรมอันนานัปการให้ทำจนกระทั่งล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการชมทิวทัศน์เมืองจากยอดเขามัณฑะเลย์ ภายหลังที่ระหกระเหินทัวร์ไปในราชวัง เจดีย์ และก็หนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลิ้มลองของกินใหม่ๆจากร้านแผงลอยสองข้างทางซึ่งมีเยอะแยะมากซะจนน่าทึ่งที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งเมือง และก็หัวเราะให้ลั่นกับลูกพี่ลูกน้องหนวดนักเล่นตลกการบ้านการเมืองที่จัดการแสดงตลกวันแล้ววันเล่าในบ้านของครอบครัว ตั๋วเรือบินไปมัณฑะเลย์ราคาเริ่มที่ 3,xxx บาท
6. ไปเดินป่าหลายๆวัน แล้วก็นั่งรถไฟผ่านสะพานที่สูงที่สุด
หากการเดินป่าแบบสามวันจากสีป้อไปลาชิวยังเร้าใจไม่เพียงพอ ให้เพิ่มรายการนั่งรถไฟสายที่สร้างโดยอังกฤษผ่านสะพานรถไฟก๊อกน้ำเต๊กซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในพม่า รถไฟสายที่จะทำให้ท่านใจเต้นระทึกนี้ผ่านเมืองพินอูลวินซึ่งเป็นเมืองอาณานิคมเก่า เมื่อรถไฟไปถึงสะพานแล้ว อย่าลืมมองดูลงมาให้ได้ เนื่องจากความสูงที่น่าเสียวไส้จะก่อให้คุณลืมไม่ลงไปเลยทีเดียว
7. ลงใต้ไปเยี่ยมเกาะสวรรค์ หมู่เกาะมะริด เมียนมาร์
เพราะเขตทางด้านเหนือหลายเมืองยังไม่เปิดให้นักเดินทางเดินทางเข้าไปได้ ทางด้านใตนจึงเป็นที่ๆเข้าถึงได้ง่ายดายกว่าด้วยเหตุว่าได้เปิดให้เที่ยวดูได้มากกว่า 1 ปีแล้ว มะละแหม่งและทวายเป็นทางที่ไม่มีอะไรเทียบได้รวมทั้งให้บรรยากาศเขตแดนสุดๆซึ่งจะนำคุณไปยังเมืองมะริดอันน่าพิศวง เมืองนี้เองเป็นประตูสู่หมู่เกาะมะริดที่สวยเกินจริงโดยคุณสามารถคิดแผนล่วงหน้าเพื่อจองทัวร์ล่องเรือแล้วก็ทัวร์แบบค้างหลายๆที่พักในเมืองมะริด ราคาเริ่มต้นที่ 5xx บาท
8. เลือกว่าจะไปตอนไหนดี
คุณมีสองลู่ทางเป็น ฤดูท่องเที่ยวในตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งอากาศกำลังสบายแต่ว่ามีนักท่องเที่ยวล้นหลามรวมทั้งตัวเลือกที่พักก็เหลือน้อย หรือจะไประหว่างก.พ./มีนาคม ถึง พ.ค.ซึ่งเป็นตอนที่นักเดินทางน้อยกว่าแต่อากาศก็ร้อนอย่างมาก ลองเลือกแบบที่ใช่กันเลย!
9. ดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆสำหรับจ่ายโฮเต็ล อื่นๆจ่ายด้วยเงินจ๊าด
ในเมียนมาร์คุณต้องใช้เงินดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆซึ่งหาได้จากแหล่งเปลี่ยนเงินใกล้บ้านหรือในจ.กรุงเทพฯ แล้วนำดอลล่าร์ไปแลกเงินจ๊าดพอดีท่าอากาศยาน เกสท์เฮ้าส์ หรือธนาคารในประเทศพม่า เงินดอลล่าร์ใช้สำหรับจ่ายค่าที่พัก ส่วนเงินจ๊าดใช้จ่ายเงินค่าอื่นๆตามทางตัวอย่างเช่น ของกิน ค่าพาหนะ รวมทั้งของฝาก ในประเทศพม่ามีตู้เครื่องรับฝากถอนเงินอัตโนมัติเฉพาะในเมืองใหญ่ 
10. ร้องเพลงฆ่าเวลาขณะเดินทาง รถไฟในประเทศพม่า
รักจะท่องเที่ยวเมียนมาร์ต้องเรียนรู้ที่จะสนุกสนานไปกับการเดินทางบนรถบัสอันนาน เนื่องจากเป็นการขนส่งหลักที่ใช้เดินทางไปทั่วทั้งประเทศ รถบัสหลายคันจะออกช่วงเวลาบ่ายแก่ๆโดยคุณจะไปถึงที่หมายในค่ำๆ หรือรุ่งสางพรุ่งนี้ บนรถบัสมักจะมีคาราโอเกะไว้บริการแล้วก็บางคันก็เปิดคาราโอเกะตั้งแต่รถออกไปจนถึงจุดหมายเลยทีเดียว

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เที่ยวเมียนมาร์กับทัวร์ สบายกว่าท่องเที่ยวเองยังไง…?

ดำเนินการกันมาเหนื่อยๆทั้งปี ลองหาวันว่างสักนิดหน่อย ไปเที่ยวใกล้บ้านที่เมียนมาร์กันมั้ยค่ะ? ปี 2018 นี้ เมียนมาร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีนักท่องเที่ยวพอใจไปเที่ยวมากยิ่งขึ้นกว่าทุกปี กล่าวได้ว่ามาแรงแซงทางโค้งมากยิ่งกว่าทัวร์ฮ่องกงและประเทศสิงคโปร์กันอย่างยิ่งจริงๆล่ะจ้ะ มูลเหตุหนึ่งที่ทำให้ ทัวร์พม่า ได้รับความสนใจและขายดิบขายดีก็คือ การไป เที่ยวพม่าด้วยตัวเอง นับว่ายังเกิดเรื่องที่ไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไรนัก หากคนไหนไม่ใช่สายลุยหรือตระเตรียมรับการเสี่ยงได้ทุกสถานการณ์ เสนอแนะให้ ท่องเที่ยวประเทศพม่ากับทัวร์ คงจะตอบปัญหามากยิ่งกว่า หากใคร่รู้ว่าท่องเที่ยวแบบซื้อ ทัวร์เมียนมาร์ สบายกว่าเที่ยวเองยังไงมาดูกันค่ะ
1.การติดต่อ
ในประเทศพม่า รถยนต์สาธารณะแต่ละเมืองยังมีน้อย ทำให้การต่อรถหรือขึ้นลงเวลาจะเดินทางไปยังที่เที่ยวต่างๆบางทีก็อาจจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ ประกอบกับป้ายสำหรับบอกทางก็เป็นภาษาเมียนมาร์ทั้งนั้น ทำให้บางทีก็อาจจะจำเป็นต้องใช้เวลามาก แถมบางครั้งบางทีอาจยังหลงทางแบบไม่คาดคิดอีกด้วย โดยเหตุนี้ถ้าเกิดจะไป เที่ยวประเทศพม่าด้วยตัวเอง ต้องทำการบ้านหนักพอสมควรเลยล่ะค่ะ แม้กระนั้นถ้าเกิดไปเที่ยวพม่ากับทัวร์ ก็จะสะดวกมาก เพราะเหตุว่ามีรถรับส่งตลอดทริป ถ้าหากไปเที่ยวสถานที่ต่างๆที่แต่ละจุดห่างไกลกัน ไปกับทัวร์จะคุ้มกว่ามากมายเลยจ้ะ
2.การสื่อสารภาษาพูด
ไปเที่ยวต่างถิ่น สิ่งนึงที่จะต้องพบเป็นลำดับแรกก็คือความแตกต่างในเรื่องของภาษา ในเมืองย่างกุ้ง พวกเรายังพอเพียงติดต่อสื่อสารภาษาอังกฤษกับคนท้องถิ่นได้ตามปกติ อาทิเช่น การสั่งอาหาร หรือถามทาง แต่ถ้าหากออกไปเที่ยวชานเมืองย่างกุ้ง จะเจอผู้คนที่ติดต่อสื่อสารภาษาอังกฤษได้ลดลง ก็อาจจะจำต้องใช้หลายๆความชำนาญเพื่อสื่อสารกันให้รู้เรื่อง แต่ว่าถ้าหากไป ท่องเที่ยวกับทัวร์ ก็จะมีไกด์หรือหัวหน้าทัวร์ ช่วยสนทนา หรือจัดแจงตลอดการเดินทางเลยค่ะ
3.ห้องอาหาร
เรื่องชีพเป็นเรื่องสำคัญเลยค่ะ ไปเที่ยวก็จะต้องได้ทดลองลองอาหารของท้องถิ่นนั้นๆด้วย ถ้าเกิดท่องเที่ยวเองบางครั้งก็อาจจะตรากตรำหน่อยเวลาพบของกินที่ไม่คุ้นหน้าชินตาสั่งไปแล้วหลังจากนั้นก็ต้องมาลุ้นอีกว่ามันคืออะไร กินได้มั้ย แม้กระนั้นถ้าท่องเที่ยวประเทศพม่ากับทัวร์ไม่ต้องลุ้นเรื่องอาหาร ว่ารสชาติจะอร่อยไหม สะอาดหรือไม่ เนื่องจากบริษัททัวร์จะคัดห้องอาหารที่ถูกสุขลักษณะ รสชาติกับคนประเทศไทย แถมไม่ต้องต่อคิวรอของกินลงอีกด้วย
4.การไหว้พระขอพร สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เมียนมาร์ขึ้นชื่อในเรื่องของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆคนจำนวนไม่น้อยต้องการท่องเที่ยวแสวงบุญที่เมียนมาร์สักหนึ่งครั้งในชีวิต แม้กระนั้นถ้าเกิดไปเที่ยวเอง ไปถึงสถานที่ทั้งทีหากไม่รู้เรื่องกระบวนการไหว้ที่ถูกก็คงจะไปแบบมึนๆทำอะไรไม่ค่อยถูก และไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกันว่าที่ไหว้ไปแล้วเป็นวิธีที่ถูกต้องไหม แต่ว่าถ้าเกิดท่องเที่ยวกับทัวร์ คุณจะได้รับบริการคำเสนอแนะจากไกด์ผู้ที่มีความชำนาญ รวมทั้งข้อเสนอแนะหัวข้อการแต่งกาย การสวดมนต์ ไหว้พระ ขอพร สักการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในแต่ละสถานที่ พร้อมคำบรรยายที่จะทำให้ท่านเข้าใจประวัติความเป็นมาของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นๆอย่างแม่นยำลึกซึ้ง
5.สบายมากมายเมื่อพาคุณพ่อคุณแม่เที่ยว
แม้ลูกๆใคร อยากพาคุณพ่อและก็คุณแม่ไปเที่ยวเมียนมาร์ ไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แนวทางในการเลือกซื้อ ทัวร์พม่า ไปเที่ยวนั้นจะเหมาะสมมากที่สุดเลยจ้ะเนื่องจากคุณจะได้ในเรื่องของความปลอดภัย ความสบายสบายสำหรับการเดินทาง ของกินต่างๆรวมทั้งที่พักแบบนอนสบาย แถมยังไม่ต้องถือกระเป๋าสัมภาระเองให้เมื่อยล้าอีกด้วย
6.ไม่ต้องลุ้นเรื่องที่พัก
หากไป ท่องเที่ยวเมียนมาร์ด้วยตัวเอง เวลาจองห้องพักไปแล้ว พอไปถึงที่พักคุณอาจต้องลุ้นว่าที่พักจะดีเลิศราวที่อ่าน Review มาหรือไม่ แม้กระนั้นถ้าซื้อ ทัวร์ประเทศพม่า โดยมากในโปรแกรมจะจัดที่พักอย่างยอดเยี่ยม เป็นโฮเต็ลระดับ 4-5 ดาว รับประกันว่าสะอาดรวมทั้งปลอดภัย พักได้สบายใจ ไม่ต้องลุ้นแน่ๆจ้ะ
แนวทางในการเลือกซื้อ ทัวร์พม่า ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาสำหรับการวางแผนหรือศึกษาเล่าเรียนหาข้อมูลท่องเที่ยวด้วยตัวเอง อีกทั้งหากว่าทริปนี้มีพ่อกับแม่หรือคนวัยแก่ร่วมทริปด้วย การไป ท่องเที่ยวประเทศพม่ากับทัวร์ ก็ดูเหมือนเหมาะสมและคุ้มมากกว่าท่องเที่ยวเองแน่ๆค่ะส่วนคนไหนเป็นสายฝ่า จะท่องเที่ยวด้วยตัวเองกับแฟนหรือเพื่อนๆก็น่าจะได้ประสบการณ์ที่สนุกสนานแปลกใหม่ไปอีกในลัษณะหนึ่ง อย่างไรก็ลองเลือกการเที่ยวที่เหมาะสมกับตัวเองดูนะคะ

เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชเมืองในที่สุดของเมียนมาร์

“เยือนมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชธานีในที่สุดของเมียนมาร์”
วันนี้พวกเราจะมาเสนอแนะสถานที่ท่องเที่ยงตรงในพม่าอีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมเฉพาะตัว เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวคลั่งไคล้จนไม่รู้จักลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชธานีสุดท้ายก่อนที่จะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ที่นี่ถือเมืองใหญ่อันดับที่สองของเมียนมาร์รองจากนครย่างกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากย่างกุ้งราวๆ 716 กิโลเมตรและพระเจ้าไม่นดงทรงย้ายราชธานี มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชเมืองในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระเจ้าไม่นป่าดง โดยตั้งชื่อตามเทือกเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
ประเทศพม่า
เป็นเมืองดั้งเดิมตั้งแต่ยุคพุทธศักราชที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่งดงามมากแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยยิ่งไปกว่านั้นความใหญ่โตของเจดีย์มากมายกว่า5,000 องค์ จนได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองที่เจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงความเจริญของพุทธศาสนาในประเทศประเทศพม่าได้เป็นอย่างดีคนทั่วไปจึงขนานนามเมืองพูกามนี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
ภูเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดสำหรับเพื่อชมวิวงดงามรวมทั้งมีสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาสำคัญๆให้นักท่องเที่ยวได้ดู ดูธรรมชาติ มองทิวภาพอันสวยสดงดงามที่สุด และสามรถยนต์มองเมืองมัณฑะเลย์ ได้แทบทั้งสิ้น สามารถเห็นทิวภาพของเมืองมัณฑะเลย์ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส ท่องเที่ยวชมตลอดระยะเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก สร้างขึ้นในยุคพระผู้เป็นเจ้าโบดอพญา ผลิตขึ้นเพื่อผ่านทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร จุดเด่นของสะพานเเห่งนี้นอกจากจะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังสร้างขึ้นมาจากไม้สัก ที่รื้อมาจากพระราชวัง เเห่งกรุงอังวะ
ใส่บาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดมิได้เมื่อไปเยื่อนเมียนมาร์เป็นการตักบาตรพระ ในตอนสายๆจะมีพระประเทศพม่าเดินเข้าคิวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำมาจากไม้ไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยบริเวณวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม กับข้าวต่างๆหรือหากไม่อยากซื้อเราสามารถมอบให้เงินตามกำลังศรัทธาได้เลย
นี่เป็นแค่เพียงภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์ นอกนั้นประเทศพม่ายังมีสถานที่เที่ยวที่งดงาม แล้วก็น่าดึงดูดอีกเยอะแยะที่ยังคอยเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต แล้วก็วัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับไทยเรา รวมทั้งที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง ใครกันแน่มีเวลาว่างๆก็อย่าลืมเมียนมาร์ มิงกะละบานะขา

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

10 สิ่งที่จำเป็นต้องรู้แล้วก็ควรจะทำเมื่อท่องเที่ยวในประเทศพม่า

1. จัดเวลามากยิ่งกว่า 1 สัปดาห์ในการเที่ยวท่องเที่ยวชม
การเที่ยวเมียนมาร์จึงควรใช้เวลามากยิ่งกว่า 1 สัปดาห์ ด้วยการเดินทางที่ยังไม่สะดวกนักรวมทั้งเส้นทางที่ยาวไกล 1 อาทิตย์ดูจะเร่งรีบเกินไปและก็ยังเที่ยวได้ไม่ทั่ว ถ้าหากคุณมีเวลา 2 หรือ 4 อาทิตย์ให้คิดแผนทางท่องเที่ยวบริเวณสถานที่สำหรับท่องเที่ยวหลัก 4 ที่โดยการบินไปลงเมืองใหญ่สักแห่งและบินกลับจากอีกเมืองหนึ่ง
2. สัมผัสประวัติศาสตร์ พร้อมๆกับชอปและก็รับประทานให้กระจัดกระจายในย่างกุ้ง
ปิ้งกุ้ง เป็นเมืองขนาดกะทัดรัดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีสถาปัตยกรรมจากยุคอาณานิคมกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองเชื้อเชิญให้คิดถึงสมัยก่อนที่ประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ เวลาที่มหาเจดีย์ชเวดากองก็ส่องประกายสีทองสวยงามเป็นสัญลักษณ์ของพุทธศาสนาอันเจริญรุ่งเรือง ที่นี่ชุมชนคนจีน เนปาล และอินเดียตั้งอยู่เคียงข้างชุมชนชาวประเทศพม่า ที่พักราคาเริ่มต้นที่ 3,xxx บาท
3. หลงทางในวัดที่พม่า
พุกาม ดินแดนลึกลับเหนือระยะเวลานี้เป็นที่ตั้งของสงฆ์กว่า 2,000 แห่งที่ทำขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 9 ตั้งแต่วัดขนาดใหญ่ที่สง่าสวยสดงดงาม ไปจนกระทั่งวัดเล็กๆที่สร้างละเอียดลออบรรจง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะรู้สึกราวกับกำลังเดินทางย้อนเวลา ตรงนี้ใช้การเดินทางด้วยรถม้าเป็นหลัก (โดยประมาณ 600 บาทต่อวัน) แต่ว่าการขี่จักรยาน (โดยประมาณ 90 บาทต่อวัน) เป็นวิธีเดินทางที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวแบบเต็มวันรวมทั้งปฏิบัติตัวกลมกลืนไปกับผู้คนนับร้อย ที่พักในพม่า ราคาเริ่มที่ 5xx บาท
4. ศึกษาและทำการค้นพบความเงียบสงบและก็ประเพณีเริ่มแรกที่ทะเลสาบอินเล
ทะเลสาบอินเล (ใหญ่เป็นชั้นสองของประเทศพม่า) เป็นดั่งกระจกสีน้ำเงินสะท้อนภาพอันสวยของหมู่บ้านเล็กๆเขื่อนที่สร้างด้วยมือและลำคลองที่ใช้คนขุด ที่นี่ยังคงรักษาจารีตประเพณีเก่าแก่(และชาวเรือที่พายเรือด้วยเท้าฝ่ายเดียว) บรรยากาศสงบเงียบ และกิจการค้าแบบดั้งเดิม ทั้งยังยังมีตลาดผลไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอ รวมทั้งสวนองุ่นที่อยู่ไม่ไกล แม้อยากชมทะเลสาบแบบสงบไม่ต้องฝ่าผู้คนเราขอเสนอแนะให้รีบไปแต่เช้า
5. ลิ้มลองของอร่อย รวมทั้งหัวเราะร่า ขณะท่องไปในเมืองมัณฑะเลย์อันงาม
มัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่มีกิจกรรมอันมากมายให้ทำจนกระทั่งล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวเมืองจากยอดดอยมัณฑะเลย์ หลังจากที่เร่ร่อนทัวร์ไปในราชวัง เจดีย์ และก็หนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลิ้มรสอาหารใหม่ๆจากร้านหาบเร่สองข้างทางซึ่งมีเยอะมากเสียจนน่าทึ่งที่กระจายตัวอยู่ทั้งเมือง และหัวเราะให้สนั่นกับพี่น้องหนวดนักเล่นตลกการเมืองที่จัดการแสดงตลกทุกเมื่อเชื่อวันในบ้านของครอบครัว ตั๋วเครื่องบินไปมัณฑะเลย์ราคาเริ่มที่ 3,xxx บาท
6. ไปเดินป่าหลายๆวัน รวมทั้งนั่งรถไฟผ่านสะพานที่สูงที่สุด
หากการเดินป่าแบบสามวันจากสีป้อไปลาชิวยังตื่นเต้นไม่เพียงพอ ให้เพิ่มรายการนั่งรถไฟสายที่สร้างโดยอังกฤษผ่านสะพานรถไฟก๊อกเต๊กซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในพม่า รถไฟสายที่จะทำให้ท่านใจเต้นระทึกนี้ผ่านเมืองพินอูลวินซึ่งเป็นเมืองอาณานิคมเก่า เมื่อรถไฟไปถึงสะพานแล้ว อย่าลืมมองลงมาให้ได้ เนื่องจากความสูงที่น่าหวาดเสียวจะก่อให้คุณลืมไม่ลงไปเลยทีเดียว
7. ลงใต้ไปเยือนเกาะสรวงสวรรค์ หมู่เกาะมะริด เมียนมาร์
เนื่องจากว่าเขตตอนเหนือหลายเมืองยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปได้ ตอนใต้ก็เลยเป็นที่ๆเข้าถึงได้ง่ายยิ่งกว่าเพราะว่าได้เปิดให้ท่องเที่ยวดูได้มากกว่า 1 ปีแล้ว มะละแหม่งแล้วก็ทวายเป็นเส้นทางที่ไม่มีอะไรเทียบเคียงได้แล้วก็ให้บรรยากาศแคว้นสุดๆซึ่งจะนำคุณไปยังเมืองมะริดอันน่าพิศวง เมืองนี้เองเป็นประตูสู่หมู่เกาะมะริดที่สวยสดงดงามไม่น่าเชื่อโดยคุณสามารถคิดแผนล่วงหน้าเพื่อจองทัวร์ล่องเรือและทัวร์แบบค้างแรมหลายๆที่พักในเมืองมะริด ราคาเริ่มต้นที่ 5xx บาท
8. เลือกว่าจะไปตอนไหนดี
คุณมีสองโอกาสคือ ฤดูท่องเที่ยวในตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ซึ่งอากาศกำลังสบายแม้กระนั้นมีนักท่องเที่ยวล้นหลามและตัวเลือกที่พักก็เหลือน้อย หรือจะไประหว่างกุมภาพันธ์/มีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงๆที่นักเดินทางน้อยกว่าแม้กระนั้นอากาศก็ร้อนเหลือเกิน ทดลองเลือกแบบที่ใช่กันเลย!
9. ดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆสำหรับจ่ายโรงแรม อื่นๆจ่ายด้วยเงินจ๊าด
ในประเทศพม่าคุณต้องใช้เงินดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆซึ่งหาได้จากแหล่งแลกเงินใกล้บ้านหรือในจ.กรุงเทพฯ แล้วหลังจากนั้นนำดอลล่าร์ไปแลกเงินจ๊าดถึงที่เหมาะท่าอากาศยาน เกสท์เฮ้าส์ หรือธนาคารในพม่า เงินดอลล่าร์ใช้สำหรับจ่ายค่าที่พัก ส่วนเงินจ๊าดใช้จ่ายเงินค่าอื่นๆตามทางได้แก่ อาหาร ค่าเดินทาง รวมทั้งของฝาก ในประเทศพม่ามีตู้เครื่องรับฝากถอนเงินอัตโนมัติเฉพาะในเมืองใหญ่ 
10. ร้องเพลงฆ่าเวลาขณะเดินทาง รถไฟในประเทศพม่า
รักจะเที่ยวประเทศพม่าจะต้องทำความเข้าใจที่จะสนุกไปกับการเดินทางบนรถบัสอันช้านาน เนื่องจากว่าเป็นการขนส่งหลักที่ใช้เดินทางไปทั้งประเทศ รถบัสหลายคันจะออกช่วงเวลาบ่ายแก่ๆโดยคุณจะไปถึงที่หมายในค่ำๆ หรือเช้าตรู่พรุ่งนี้ บนรถบัสชอบมีคาราโอเกะไว้บริการและบางคันก็เปิดคาราโอเกะตั้งแต่รถยนต์ออกไปจนกระทั่งจุดหมายเลยทีเดียว

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เยือนมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชเมืองสุดท้ายของเมียนมาร์

“เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชบุรีในที่สุดของพม่า”
วันนี้เราจะมาเสนอแนะสถานที่ท่องเที่ยงในพม่าอีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมเฉพาะตัว เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวคลั่งไคล้จนไม่รู้ลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชเมืองท้ายที่สุดก่อนจะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ตรงนี้ถือเมืองใหญ่อันดับที่สองของประเทศพม่ารองจากนครปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากย่างกุ้งโดยประมาณ 716 กิโลเมตรรวมทั้งพระเจ้ามินดงทรงย้ายราชเมือง มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชเมืองในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระเจ้าไม่นดง โดยตั้งชื่อตามภูเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พูกาม
เป็นเมืองดั้งเดิมตั้งแต่ยุคพุทธศักราชที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากมายแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโหฬารของเจดีย์จำนวนไม่น้อยกว่า5,000 องค์ จนได้รับฉายาว่าเป็นเมืองที่เจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งถึงความเจริญก้าวหน้าของศาสนาพุทธในประเทศประเทศพม่าได้เป็นอย่างดีคนทั่วไปจึงขนานนามเมืองประเทศพม่านี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
เทือกเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดชมวิวสวยงามและก็มีปูชนียสถานสำคัญๆให้นักท่องเที่ยวได้ชม อีกทั้งดูธรรมชาติ มองทิวทัศน์อันสวยสดงดงามที่สุด รวมทั้งสามรถยนต์มองดูเมืองมัณฑะเลย์ ได้ดูเหมือนจะทั้งหมด สามารถเห็นทิวภาพของเมืองมัณฑะเลย์ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส ท่องเที่ยวชมตลอดเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ทำขึ้นในยุคพระเจ้าโบดอพญา สร้างขึ้นเพื่อผ่านทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กิโล จุดแข็งของสะพานเเห่งนี้นอกเหนือจากที่จะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังผลิตขึ้นมาจากไม้สัก ที่รื้อมาจากวัง เเห่งกรุงอังวะ
ใส่บาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดมิได้เมื่อไปเยื่อนพม่าคือการตักบาตรพระ ในเวลาสายๆจะมีพระพม่าเดินเรียงแถวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำมาจากไม้ไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยบริเวณวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม อาหารต่างๆหรือถ้าเกิดไม่ต้องการที่จะอยากซื้อพวกเราสามารถถวายเงินตามกำลังศรัทธาได้เลย
นี่เป็นเพียงแต่ภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์ นอกจากนั้นประเทศพม่ายังมีสถานที่เที่ยวที่งดงาม และน่าสนใจอีกเยอะมากที่ยังคอยพวกเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต และก็วัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับไทยเรา และก็ที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้ใดกันมีเวลาว่างๆก็อย่าลืมพม่า ไม่งกะละบานะขา

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า